ไม่ได้มีข้อห้าม!!!
เพียงแต่เคสการย้าย “ผกก.กฤศณัฏฐ์” ถูกนำมาพูดถึง ถูกนำมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมมากน้อยแค่ไหน ในการย้ายออกนอกหน่วย ในการย้ายข้ามห้วย ไปไกลถึงจังหวัดชัยภูมิ
เพราะเจ้าตัวมีผลงาน มีรางวัล เป็นเครื่องการันตีในตำแหน่ง “ผู้กำกับสืบฯ”
เพิ่งได้รับรางวัลประกาศเกียรติคุณตามโครงการ “ทำดี มีรางวัล” ในฐานะที่ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่นในการจับกุมยาเสพติด การสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายสำคัญ ประจำเดือน ต.ค.65
ถึงขนาด 2 อดีตนายพลตำรวจ ต้องออกมาตั้งคำถาม ตั้งข้อสังเกต ตั้งข้อสงสัย ส่งผ่านไปถึง “ผบ.เด่น” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ แม่ทัพใหญ่สีกากี
เกิดอะไรขึ้น???
พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น อดีตจเรตำรวจแห่งชาติ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวด้วยหัวข้อดุเดือด “มีลางบอกเหตุว่าจะเกิดสิ่งร้ายๆ ต่อแวดวงตำรวจโดยเฉพาะจากการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้”
เช่นเดียวกับ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีตรอง ผบ.ตร.และนายกสมาคมตำรวจ ก็สอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และได้รับแจ้งจาก “ผบ.เด่น” จะหาแนวทางเยียวยาให้ “ผกก.กฤศณัฏฐ์”
ส่วนเรื่องความผิดพลาด ความพลั้งเผลอ ในบางตำแหน่งที่มีชื่อซ้ำกัน 2 คน หรือการแต่งตั้ง พ.ต.อ.ณัฐพล โกมินทรชาติ รอง ผบก.น.6 ซึ่งถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนกรณีปล่อยรถหรูคดีตู้ห่าว เดิมมีชื่อถูกโยกเป็นรอง ผบก.ผอ. ก็มีการแก้ไข ก็มีการเปลี่ยนแปลงในคำสั่งถอนชื่อออกไป
ถือเป็นความผิดพลาดทางธุรการที่เกิดขึ้นทุกปี ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร ตราบใดที่คำสั่งยังไม่มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ
แต่อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นประเด็นเมาธ์ ประเด็นลือกันในแวดวง “สีกากี” ว่ากันว่าในช่วงการแต่งตั้ง รอง ผบก.-ผกก.ที่ผ่านมา มีการไล่ยกหูไปหาอดีตตำรวจใหญ่ที่ผันตัวไปอยู่แวดวงการเมือง
เพื่อแจกโควตาแต่งตั้ง!!!
ไม่รู้เสียงลือ เสียงเล่าอ้างประเด็นนี้ “จริง-เท็จ” แค่ไหน อย่างไร???
ทว่าพอกระแสข่าวนี้เล่าลือกันออกไป ก็ทำให้ “ตำรวจ” ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มที่ไร้เส้น ไร้สาย ก้มหน้าทำงาน หวังจะใช้ความขยัน ใช้หยาดเหงื่อ ใช้ความทุ่มเท เพื่อให้เข้าตาผู้บังคับบัญชา จะได้เติบโตในหน้าที่การงานบ้าง
ต่างท้อแท้ เสียขวัญ ขาดกำลังใจ
ก็ขอให้เป็นแค่เพียงข่าวลือ อย่าเป็นเรื่องจริงเลย…สาธุ.