ผู้ประกอบการโรงแรมดอดติดต่อกองปราบฯขอคืนเงินทุจริตโครงการเราเที่ยวด้วยกัน อ้างไม่อยากติดคุก
จันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 15.39 น.
จากกรณีตำรวจกองปราบปรามดำเนินการตรวจสอบเอาผิดโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร ที่ทุจริตฉ้อโกงเงินของรัฐจากโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” จนนำไปสู่ปฏิบัติการกระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 55 จุด ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ และ จ.ภูเก็ต จนสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้จำนวนมาก ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 8 ก.พ. ที่ กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาทางกองปราบปรามได้ส่งประเด็นการสอบสวนไปให้สถานีตำรวจท้องที่ทั่วประเทศ เพื่อออกหมายเรียกประชาชนที่ร่วมกระทำผิดมาสอบสวน เฉพาะที่โรงแรมดังแห่งหนึ่งใน จ.ชัยภูมิ ประมาณ 9,000 ราย โดยภายในต้นสัปดาห์หน้าทางผู้บังคับบัญชาระดับ ตร. จะเรียกประชุมคอนเฟอเรนซ์เพื่อติดตามความคืบหน้าอีกครั้ง ทั้งนี้ จากการขยายผลพบมีโรงแรม 451 แห่ง และร้านค้า 489 แห่ง กระจายอยู่ทั่วประเทศ ที่พบพิรุธส่อทุจริต และมีโรงแรม 1 แห่ง ที่รู้ตัวว่าทุจริต ติดต่อมาที่กองปราบปรามเพื่อขอคืนเงิน โดยอ้างว่าไม่อยากติดคุก ซึ่งในส่วนนี้ต้องให้ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงการคลังพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร
รายงานข่าวแจ้งว่า เกี่ยวกับคดีทุจริตโครงการดังกล่าว ก่อนหน้านี้ทาง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้เรียกฝ่ายสืบสวนภูธรจังหวัดทุกแห่ง มาร่วมประชุมอบรมกับฝ่ายสืบสวนกองปราบปราม เพื่อหาแนวทางการสืบสวนคลี่คลายคดีโกงเราเที่ยวด้วยกัน โดยนักสืบทั้งหมดต้องลงไปช่วยสืบสวนหาข้อมูลในการช่วยหาพยานหลักฐานการกระทำความผิดต่างๆ ร่วมกับทางพนักงานสอบสวน.
คุณเห็นด้วยกับข่าวนี้หรือไม่
-
เห็นด้วย
6%
-
ไม่เห็นด้วย
94%