จว.อีสานใต้พร้อมรับผู้ติดเชื้อโควิด กลับภูมิลำเนา ประสานจัดหารถรับส่งฟรี

จังหวัดอีสานใต้พร้อมรับพี่น้องที่ติดเชื้อโควิด-19 ใน กทม.-ปริมณฑล กลับไปรักษาตัวในภูมิลำเนา แนะโทรแจ้งล่วงหน้าผ่านหมายเลขโทรศัพท์ที่แต่ละจังหวัดจัดเตรียมไว้ก่อนหรือลงทะเบียนที่เว็บไซต์ สปสช.เพื่อจะได้เตรียมเตียง สถานที่และยา พร้อมประสานจัดหารถรับส่งฟรี

นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ ผู้ตรวจราชการเขตสุขภาพที่ 9 กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 ที่เพิ่มมากขึ้นในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล จนเตียงไม่เพียงพอ ผู้ป่วยจำนวนมากไม่มีเตียงรองรับ ขณะเดียวกัน ก็มีประชากรจำนวนหนึ่งที่แม้ทำงานใน กทม.และปริมณฑล แต่มีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัดโดยเฉพาะประชากรจากภาคอีสานซึ่งมีจำนวนมาก ทางเขตสุขภาพที่ 9 ซึ่งประกอบด้วยจังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ สุรินทร์ บุรีรัมย์ รวมถึงจังหวัดในเขต 10 อาทิ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ยโสธร และอำนาจเจริญ เป็นต้น จึงพร้อมรับตัวพี่น้องที่ไปทำงานใน กทม.และปริมณฑล ที่ติดเชื้อโควิด-19 กลับมารักษาในภูมิลำเนา

“เรื่องนี้ทางบุรีรัมย์เป็นโมเดลต้นแบบ ทางภาคีเครือข่ายและผู้นำในจังหวัดเขามองว่าลูกหลานทำไมต้องไปนอนรอความเจ็บป่วยอยู่ที่ กทม.และปริมณฑล ถ้าพอจะกลับบ้านได้ก็เอากลับมาดูแลที่ภูมิลำเนาก็ได้ จึงเป็นที่มาของเรื่องนี้ แต่การย้ายกลับบ้านไม่ใช่ปุบปับย้ายมาเลยเพราะอาจแพร่เชื้อให้คนอื่น ผู้ป่วยต้องติดต่อมาทางจังหวัดก่อนว่ามีความประสงค์จะกลับภูมิลำเนา

โดยสามารถลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ของ สปสช. https://crmdci.nhso.go.th/ หรือโทรแจ้งที่สายด่วน สปสช. 1330 กด 15 หรือโทรติดต่อตามหมายเลขที่ทางจังหวัดจัดเตรียมไว้ให้ จากนั้นจังหวัดก็จะประสานเรื่องการรับส่งโดยมีสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ร่วมกับกรมขนส่งทางบกและทหาร สนับสนุนในเรื่องการเดินทางให้ฟรี ขณะเดียวกันก็ต้องเช็กความพร้อมที่ปลายทางว่าพร้อมรับตัวผู้ป่วยหรือไม่ด้วยเช่นกัน” นพ.พงศ์เกษมกล่าว

อย่างไรก็ดี คาดว่าอาจมีผู้ป่วยบางส่วนที่เดินทางกลับมาเองโดยไม่ได้แจ้งก่อน ซึ่งกรณีแบบนี้ไม่สามารถรับรองได้ว่าจะมีสถานที่ให้หรือไม่ ดังนั้นถ้าจะให้ดีควรแจ้งมาก่อนเพราะทางเจ้าหน้าที่จะได้เตรียมเตียง เตรียมยาและอุปกรณ์ต่างๆ รอไว้ให้

นพ.พงศ์เกษมกล่าวอีกว่า ในส่วนการเตรียมระบบรองรับผู้ป่วยที่เดินทางกลับจาก กทม.นั้น ในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 9 ตนเน้นว่าในกลุ่มผู้ป่วยสีเขียว ถ้าอยู่บ้านเองได้ก็ให้ทำ Home Isolation โดยมีการส่งเครื่องวัดออกซิเจน ปรอทวัดอุณหภูมิและมีแพทย์ติดตามดูแลอาการอยู่ตลอด รวมทั้งการดูแลในชุมชนหรือ Community Isolation เช่น การใช้วัดหรือพื้นที่อื่นๆ เป็นสถานที่พักแก่ผู้ป่วยโดยมีแพทย์ติดตามอาการเช่นเดียวกัน ส่วนเตียงในโรงพยาบาลต่างๆ ก็ให้ขยายจำนวนเตียงเพื่อรองรับผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดง

นอกจากนี้ ในส่วนของการให้ยา ทางกรมการแพทย์ปรับหลักเกณฑ์ให้สามารถจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์แก่ผู้ป่วยที่อาการเล็กน้อยได้แล้วเพื่อป้องกันไม่ให้อาการทรุดลง ซึ่งก็จะทำให้มีการหมุนเวียนการใช้เตียงได้เร็วขึ้น หรือใช้เตียงน้อยลง ดังนั้นถ้าเอา 2 ปัจจัยนี้มาประกอบกันก็น่าจะมีจำนวนเตียงรองรับพี่น้องที่กลับมารักษาในภูมิลำเนาได้

QR Code LINE @Matichon

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก

Line @Matichon ได้ที่นี่

LINE @Matichon

ชัยภูมิ

ชัยภูมิ

ชัยภูมิ เมืองผู้กล้า พญาแล

Related Posts

Next Post

บทความ แนะนำ

หมวดบทความ

การก่อสร้าง การค้าวัสดุก่อสร้าง การฆ่าสัตว์ การติดตั้งไฟฟ้าสายหลัก การทำเหมืองแร่ใต้ดิน การปั้มโลหะ การผลิต การบรรจุก๊าซ การผลิตน้ำแข็ง การรีดโลหะ ผลิตเหล็ก การหล่อหลอม การกลึงโลหะ การหีบฝ้าย ปั่นนุ่น การเคลือบ ชุบ อาบขัดโลหะ การเลี้ยงสัตว์ กิจกรรม ข่าว ชัยภูมิ ตรวจหวย ธุรกิจ บริการซัก อบ รีด บริษัท ร้านค้า ร้านอาหาร วิถีชีวิต สถานที่ท่องเที่ยว สถานศึกษา สพป.ชัยภูมิ เขต 1 สพป.ชัยภูมิ เขต 2 สพป.ชัยภูมิ เขต 3 สพม.เขต 30 สมาคม หน่วยงานราชการ อบจ. อบต. เอสเอ็มอี โรงงาน โรงพยาบาล บริการสุขภาพ โรงเรียนกวดวิชา โรงเรียนศิลปะและกีฬา โรงเรียนสอนวิชาชีพ โรงเรียนสามัญ โอทอป

Welcome Back!

Login to your account below

Create New Account!

Fill the forms below to register

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.