องค์กรด้านสิทธิฯ ชวนจับตา พิพากษา 14 ชาวบ้าน คดีบุกรุก ‘อุทยานไทรทอง’ แฉนโยบาย ‘ทวงคืนผืนป่า’ ยัน อยู่มาก่อนออกประกาศ
วันที่ 6 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า องค์กรด้านสิทธิมนุษยชน “Manushya Foundation” ได้เผยแพร่ภาพพร้อมข้อความ ผ่านแฟนเพจ “Manushya Foundation” เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า
#Saveนิตยา #SaveNittaya พวกเราต้องการความช่วยเหลือ! โปรดอ่านและโปรดแชร์เรื่องของพี่นิตยา เคโระ นิตยา
เพื่อให้ทุกคนได้รับรู้ความไม่เป็นธรรมจากนโยบายของภาครัฐ การมีส่วนร่วมของทุกคนจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้พี่นิตยาไม่ต้องติดคุก #คดีไทรทอง
ทุกคนยังจำคดีไทรทองกันได้ไหม? คดีที่ชาวบ้าน 14 คนถูกศาลตัดสินจำคุกในความผิดฐานรุกที่ดินเขตป่าและเขตอุทยานแห่งชาติไทรทอง จังหวัดชัยภูมิ ชาวบ้านถูกตัดสินว่ากระทำผิด ถูกตัดสินว่าบุกรุกพื้นที่ป่า ทั้งๆ ที่ทุกคนอยู่ในพื้นที่มาตั้งแต่ก่อนที่แถบนั้นจะประกาศเป็นพื้นที่อุทยานเสียอีก
ชาวบ้านอยู่ในพื้นที่นี้ หมู่บ้านนี้กันมาทั้งชีวิต อยู่กันมาเป็นสิบๆ ปีตั้งแต่ก่อนจะมีนโยบายทวงคืนผืนป่าจาก คสช.
ยิ่งกว่านั้น นโยบายทวงคืนผืนป่ามีจุดประสงค์เพื่อนำผืนป่าคืนมาจากกลุ่มนายทุนและธุรกิจใหญ่ที่บุกรุกป่าเพื่อทำธุรกิจ เป้าหมายหลักของนโยบายนี้คือการเพิ่มพื้นที่ป่าเพื่อลดสภาวะโลกร้อน ซึ่งรัฐบาลได้รับเงินทุนจากธนาคารโลก (World Bank) เพื่อสนับสนุนนโยบายนี้ แต่แทนที่จะไปทวงพื้นที่ป่าคืนจากกลุ่มนายทุนและธุรกิจใหญ่ที่ใช้พื้นที่ป่าเป็นร้อยๆ ไร่ ทางเจ้าหน้าที่รัฐกลับหันมาเล่นงานไล่ทวงที่จากชาวบ้านเกษตรกร
ชาวบ้านทั้ง 14 คนต้องติดคุกอยู่เป็นเดือนกว่าจะได้ประกันตัว คดีของทุกคนถูกยื่นต่อไปยังศาลฎีกา และในวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ.2564 นี้ ศาลจะอ่านคำพิพากษาคดีของนิตยา ถ้าศาลฎีกาตัดสินว่านิตยากระทำความผิดจริง นิตยารวมทั้งชาวบ้านที่เหลือจะต้องติดคุกต่อ แล้วนิตยายังต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับทางภาครัฐเป็นจำนวนเงินถึง 190,000 บาท นี่แค่คดีของนิตยาเท่านั้น แต่ค่าเสียหายที่ชาวบ้านบางคนต้องจ่ายนั้นสูงถึงล้านกว่าบาท
ตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่ถึงหนึ่งเดือนก่อนจะถึงวันอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกาในวันที่ 3 มีนาคมที่จะถึงนี้ เราอยากให้ทุกคนช่วยจับตาคอยฟังผลการตัดสินของศาลฎีกาและช่วยกันแชร์เรื่องของคดีไทรทองไปให้ไกลที่สุด ช่วยกันแชร์ต่อไปยังเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ และคนรอบตัว ช่วยกันให้กำลังใจนิตยาและชาวบ้านทุกคน ให้ทุกคนรู้ว่าเรายังคอยสนับสนุนพวกเขา อย่าปล่อยให้พวกเขาต้องสู้เพียงลำพัง
#นโยบายทวงคืนผืนป่า #SaiThong
ทั้งนี้ นางสาวนิตยา ม่วงกลาง หนึ่งในชาวบ้านที่ต้องคดี ก็ได้โพสต์ภาพ พร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “เคโระ นิตยา” ด้วยว่า
ได้แต่หวังว่าบรรยากาศเศร้าๆ แบบนี้จะไม่กลับมา ขอเชิญเพื่อนๆ กัลยาณมิตรมาร่วมฟังคำพิพากษา ศาลฎีกาจะอ่านคำพิพากษาในวันที่ 3 มีนาคม 2564 ของนางสาวนิตยา ม่วงกลาง ณ ศาลจังหวัดชัยภูมิ เวลา 09.00 น คดีนี้ได้สิ้นสุดขบวนการต่อสู้จนถึงชั้นศาลฎีกาแล้ว จากนโยบายทวงคืนผืนป่า คณะทำงานตรวจสอบคุณสมบัติแล้วว่าเป็นผู้ยากจน ยากไร้ ตามคำสั่งที่ 66/2557 สู่แนวทางการแก้ไขปัญหาตามนโยบายของกระทรวงทรัพย์ฯ กับอริสระภาพที่ต้องนับถอยหลังอีก 30 วัน คดีนี้ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก 2 คดี รวม 12 เดือน ค่าเสียหาย 190,000 บาท ศาลอุทธรณ์ยืนตาม