พายุโนรูได้พัดเข้าถึงประเทศไทยแล้ว หลังลดระดับเป็นพายุดีเปรนชันโนรู กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนฝนตกหนักถึงหนักมากใน 61 จังหวัดทั่วไทย
กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศฉบับที่ 19 ว่า พายุโนรู ได้ลดระดับเป็นพายุดีเปรสชัน และพัดเข้าถล่มไทยเมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (29 ก.ย.) มีศูนย์กลางอยู่บริเวณอำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร โดยมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับในระยะต่อไป ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง
แต่ยังส่งผลทำให้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยมีลมแรงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้
- ภาคเหนือ : จังหวัดอุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
- ภาคกลาง : จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
- ภาคตะวันออก : จังหวัดฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
- ภาคใต้ : จังหวัดชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา
อิทธิพลของพายุยังกระทบไปถึงวันพรุ่งนี้ (30 ก.ย.) โดยคาดว่าจังหวัดเหล่านี้ จะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก คือ
- ภาคเหนือ : จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม นครราชสีมา และบุรีรัมย์
- ภาคกลาง : จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
- ภาคตะวันออก : จังหวัดฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
- ภาคใต้ : จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง
อิทธิพลของพายุยังกระทบไปถึงวันพรุ่งนี้ (30 ก.ย.) โดยคาดว่าจังหวัดเหล่านี้ จะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก คือ
- ภาคเหนือ : จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม นครราชสีมา และบุรีรัมย์
- ภาคกลาง : จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
- ภาคตะวันออก : จังหวัดฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
- ภาคใต้ : จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง
สถานการณ์ในเวียดนาม
ก่อนหน้าที่พายุจะพัดเข้าไทย ได้พัดถล่มเวียดนามช่วงวันที่ 28 ก.ย. โดยเมืองดานังของเวียดนาม ซึ่งเป็นเมืองขนาดใหญ่สุดอันดับ 3 อาคารสูงหลายแห่งถึงกับสั่นคลอน จากลมกระโชกแรก จากอิทธิพลพายุไต้ฝุ่นโนรู หลังคาบ้านเรือนจำนวนมากถูกพัดปลิว ขณะที่มีรายงานไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง
กรมอุตุนิยมวิทยาเวียดนามรายงานว่า กำลังลมตอนนี้ของพายุไต้ฝุ่นโนรู อยู่ที่ 103-117 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถือว่าเป็นหนึ่งในพายุรุนแรงที่สุดที่พัดถล่มเวียดนาม อย่างไรก็ดี ความเร็วลมถือว่าน้อยกว่าที่วิตกไว้ แต่ทางการยังเตือนภัยถึงดินถล่มและน้ำท่วม
ประชาชนเวียดนามกว่า 200,000 คนได้อพยพอยู่ที่ศูนย์อพยพชั่วคราว ในช่วงคืนที่ผ่านมา ขณะที่ กระทรวงมหาดไทยเวียดนามได้ส่งทหาร 40,000 นาย และทหารกองหนุน 200,000 นาย พร้อมด้วยยานยนต์หุ้มเกราะ และเรือ เพื่อเตรียมช่วยเหลือประชาชน และบรรเทาสาธารณภัยแล้ว
สนามบินกว่าครึ่งของเวียดนาม ถูกสั่งปิด เช่นเดียวกับโรงเรียนและบริษัทห้างร้านต่าง ๆ ครอบคลุมพื้นที่ทางตอนกลางของเวียดนาม รวมถึงเมืองดานัง
ล่าสุด กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศลดระดับพายุไต้ฝุ่นโนรู เป็นพายุโซนร้อนแล้ว แต่ยังคงประกาศเตือนภัยดินถล่มและน้ำท่วมอยู่
ส่วนที่ฟิลิปปินส์ ที่ซูเปอร์ไต้ฝุ่นโนรูพัดถล่ม ก่อนเคลื่อนตัวเข้าเวียดนาม มียอดผู้เสียชีวิต 10 คน ทางการอพยพประชาชนกว่า 300,000 คน โดยทางการประเมินมูลค่าความเสียหายของพืชผลทางการเกษตรจากไต้ฝุ่นโนรูอยู่ที่ 91 ล้านบาท