เมื่อวันที่ 30 ก.ค. นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ร่วมกับกองทัพอากาศและกองทัพบก จัดตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 13 หน่วยปฏิบัติการกระจายตัวอยู่ทั่วภูมิภาคขณะนี้ เพื่อปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือพี่น้องประชาชน 2 ภารกิจหลักคือ เพิ่มปริมาณน้ำให้กับพื้นที่การเกษตรที่ประสบปัญหาปริมาณน้ำไม่เพียงพอ และการเติมน้ำให้กับเขื่อนและอ่างเก็บน้ำต่างๆ ที่ยังคงมีปริมาณน้ำต้นทุนน้อยอยู่ ขณะเดียวกันในช่วงนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงที่มีลมมรสุมกำลังค่อนข้างแรง ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติการฝนหลวง เนื่องจากกระแสความเร็วลมอาจส่งผลให้การพัฒนาตัวของเมฆไม่ต่อเนื่องประกอบกับบางพื้นที่ยังคงมีเมฆชั้นกลางและชั้นสูงปกคลุม จึงมีการติดตามสภาพอากาศในแต่ละพื้นที่อย่างใกล้ชิด
โดยจากผลการปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวานนี้ ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 7 หน่วยปฏิบัติการ ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่การเกษตรบางส่วนของ จ.กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สระบุรี สุพรรณบุรี ฉะเชิงเทรา ประจวบคีรีขันธ์ พื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ จำนวน 6 แห่ง และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าพรุควนเคร็ง จ.นครศรีธรรมราช
ในส่วนของการติดตามข้อมูลสภาพอากาศจากสถานีเรดาร์ฝนหลวงทั่วประเทศในเช้าวันนี้ พบว่า มีหน่วยปฏิบัติการเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 5 หน่วยปฏิบัติการ ดังนี้
1.หน่วยปฏิบัติการฯ จ.ลพบุรี มีพื้นที่เป้าหมายคือพื้นที่การเกษตร จ.อุทัยธานี และ จ.ชัยนาท
2.หน่วยปฏิบัติการฯ จ.ขอนแก่น มีพื้นที่เป้าหมายคือพื้นที่การเกษตร จ.ขอนแก่น จ.อุดรธานี จ.หนองบัวลำภู และพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนห้วยหลวง
3.หน่วยปฏิบัติการฯ จ.อุบลราชธานี มีพื้นที่เป้าหมายคือพื้นที่การเกษตร จ.ศรีสะเกษ
4.หน่วยปฏิบัติการฯ จ.สุรินทร์ มีพื้นที่เป้าหมายคือพื้นที่การเกษตร จ.มหาสารคาม จ.ร้อยเอ็ด
5.หน่วยปฏิบัติการฯ จ.นครราชสีมา มีพื้นที่เป้าหมายคือพื้นที่การเกษตร จ.นครราชสีมา จ.ชัยภูมิ
อย่างไรก็ตาม อีก 8 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ยังคงติดตามสภาพอากาศตลอดทั้งวัน โดยหากสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง จะขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายต่อไป และพี่น้องเกษตรกรและประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวงและติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้ที่ช่องทาง Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account : @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100 และขอเชิญชวนนักเรียน นักศึกษา ประชาชนร่วมกิจกรรมกับทางกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ส่งบทความหัวข้อ “ความรักของแม่” โดยเล่าเรื่องราวความรัก ความผูกพัน ความประทับใจที่มีต่อแม่ หรือเรื่องราวความรัก ความห่วงใยที่แม่มีต่อลูก ได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 กรกฎาคม 2564 ทางกล่องข้อความ เพจ Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร