คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
โดย…สวัสดิ์ ผลชัยภูมิ – เรื่อง/ภาพ
ตร.ปิดคดีโจรปล้นเงียบ บุกธ.กรุงเทพ-ฉก 6 แสน สืบภ.2 จับไม่ทันข้ามคืน
วิธีรับมือกับหนี้สินที่ล้นพ้นตัวของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันไป หากไม่ตั้งสติให้ดี อาจถูกจิตใจฝ่ายต่ำชักนำให้ทำในสิ่งที่ผิดจนชีวิตต้องดิ่งลงเหวลึก
ย้อนไปเมื่อบ่ายสองโมงเศษ วันที่ 12 พ.ย. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ กิจจาหาญ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.เอนก บุตรอินทร์ ผกก.สภ.พานทอง นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.2, กก.สส.ภ.จว.ชลบุรี และตำรวจ สภ.พานทอง เข้าตรวจสอบภายในธนาคารกรุงเทพ สาขาบ้านเก่า ต.บ้านเก่า อ.พานทอง จ.ชลบุรี หลังเกิดเหตุปล้นเงียบภายในธนาคาร
ตร.ตรวจที่เกิดเหตุ
สอบสวนพนักงานธนาคารให้การว่า คนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 30 ปี สูงประมาณ 170 ซ.ม. สวมหมวกแก๊ปสีดำและสวมแมสก์ปิดบังใบหน้า ทำทีเข้าไปใช้บริการโดยกดบัตรคิวและนั่งรอตามปกติ เมื่อถึงคิวคนร้ายได้ยื่นสมุดบัญชีพร้อมแนบจดหมายน้อย เขียนข้อความข่มขู่ว่า “ห้ามคุยกับใคร ในกระเป๋ามีปืนทำตัวปกติ เอาเงินมา 4 ล้าน ถ้าพูดคุยกับใครมีคนตาย ซึ่งคุณเป็นคนแรก เอามาวางบนโต๊ะ” พนักงานธนาคารเกิดความกลัวจึงได้นำเงินในลิ้นชักให้กับคนร้ายไป จำนวน 600,000 บาท (หกแสนบาทถ้วน) คนร้ายได้นำเงินใส่กระเป๋าสะพายเดินออกจากธนาคาร ขึ้นรถจักรยานยนต์แบบผู้หญิงหลบหนีไป
หลังได้ข้อมูลชุดสืบสวนรีบกระจายกำลังออกติดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีในทันที โดยอาศัยกล้องวงจรปิดตามโครงการ สมาร์ต เซฟตี้โซน 4.0 (smart safety zone 4.0) ซึ่งเป็นนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 ที่กระจายอยู่ทั่วชุมชน จนทราบอย่างรวดเร็วว่าคนร้ายคือนายสุริยา หรือยา ตะโกนา อายุ 31 ปี เป็นชาว ต.บ้านเก่า อ.พานทอง จ.ชลบุรี ทำงานอยู่ที่โรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรม ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมือง จ.ชลบุรี ชุดสืบสวนตามไปตรวจสอบที่บ้านและที่โรงงานแต่ไม่พบตัว
จ.ม.น้อยขู่พนักงาน
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.มาโนต หวังสู้ศึก ผกก.สส.บก.สส.ภ.2 พ.ต.ท.ประจักษ์พงษ์ สุริยา รอง ผกก.สส.บก.สส.ภ.2 พ.ต.ท.สุวัฒน์ บริรักษ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.ภ.2 พ.ต.ท.เอกกร วรรณทอง พ.ต.ต.อสวรรธน์ ศิระเวรินทร์ สว.กก.สส.บก.สส.ภ.2 นำกำลังแกะรอยติดตามตรวจสอบจนทราบว่า นายสุริยา นำเงินสดที่ได้จากการชิงทรัพย์หลบหนีไปพร้อมอาวุธปืน และจากการไล่กล้องวงจรปิด จนพบว่าผู้ต้องหาขึ้นรถตู้โดยสารไปที่กรุงเทพฯ แล้วขึ้นรถทัวร์โดยสารจากขนส่งหมอชิต มุ่งหน้าไป จ.เชียงใหม่
ต่อมาเวลาประมาณ 22.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.อ.มาโนต หวังสู้ศึก ผกก.สส.บก.สส.ภ.2 ประสานพ.ต.อ.ศตวรรษ บุญมี ผกก.1 บก.ทล. เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงร่วมกันจับกุมตัวนายสุริยา ขณะอยู่บนรถยนต์โดยสารประจำทางสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ บริเวณหน้าปั๊ม ปตท. ถ.สายเอเชีย ต.ท่าโฉนด อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท พร้อมด้วยของกลางเงินสดที่ได้มาจากการชิงทรัพย์ จำนวน 595,000 บาท
นาทีจับกุม
นายสุริยาให้การยอมรับว่า เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ธนาคารกรุงเทพ สาขาบ้านเก่าจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมตัวดำเนินคดีในข้อหา “ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธและโดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำความผิดและพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” และขยายผลจนนำไปตรวจยึดอาวุธปืน (ปลอม) สีดำ จำนวน 1 กระบอก ทิ้งไว้ในถังขยะ ภายในสถานีขนส่งหมอชิต จตุจักร กรุงเทพฯ และควบคุมตัวกลับมาสอบสวนที่ สภ.พานทอง
วันรุ่งขึ้นตำรวจคุมตัวนายสุริยา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยเริ่มจากจุดแรกคือ ธ.กรุงเทพ สาขาดอนหัวฬ่อ หมู่ 6 ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมือง จ.ชลบุรี ที่นายสุริยานำรถจยย.ไปจอดแล้วดูลาดเลาแต่เนื่องจากคนเยอะจึงเปลี่ยนแผนขี่รถจยย.มุ่งหน้ามาก่อเหตุที่ ธ.กรุงเทพ สาขาบ้านเก่า
ขณะที่ พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ กิจจาหาญ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เปิดเผยภายหลังปิดคดีได้ไม่ทันข้ามวันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามผู้ต้องหาไปอย่างกระชั้นชิด แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะเกรงว่าผู้ต้องหาอาจเป็นอันตรายแก่ประชาชนและผู้คนสัญจรรถโดยสารประจำทางทั่วไป เนื่องจากเชื่อว่าคนร้ายมีอาวุธปืนติดตัว จึงได้ร่วมกับตำรวจทางหลวง กก.1 บก.ทล. ในเส้นทางที่ผู้ต้องหามุ่งหน้าหลบหนีให้ช่วยกันสกัดจับ จนสามารถติดตามไปพบตัว ขณะอยู่บนรถโดยสาร
ทำแผนฯ หน้าแบงก์
สำหรับมูลเหตุในการก่อเหตุในครั้งนี้ นายสุริยาให้ข้อมูลว่า เกิดจากติดหนี้บัตรเครดิต บ้าน รถ จำนองที่นา มีหนี้สินจำนวนกว่า 3 ล้านบาท วางแผนก่อเหตุมาตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย. โดยไปดูลาดเลาธนาคารมาก่อนหน้าแล้ว 4 แห่ง ก่อนเลือกลงมือที่ธนาคารที่เกิดเหตุ พร้อมนายสุริยารับว่าเขียนจดหมายน้อยเพราะไม่อยากให้คนมาใช้บริการธนาคารแตกตื่น
เรื่องราวของหนุ่มคนนี้ น่าจะเป็นอุทาหรณ์ให้อีกหลายคนได้ยั้งคิดก่อนจะสายเกินแก้