ดีเจดังเมืองชัยภูมิหันมาเอาดีเลี้ยงควายไทย แพงสุดตัวละ 15 ล้านแต่ไม่ยอมขาย ด้าน ผวจ.ชัยภูมิเผยจัดมหกรรมประกวดควายงาม 15 ม.ค.นี้
เมื่อวันที่ 8 ม.ค.66 ที่ผ่านมา นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผวจ.ชัยภูมิ พร้อมด้วยผู้สื่อข่าว เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 434 หมู่ที่ 10 บ้านเล่า ต.บ้านเล่า อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ได้พบกับ น.ส.วิรัญญา ผาแดง อายุ 45 ปี ดีเจดังเมืองชัยภูมิ กล่าวว่า เดิมมีอาชีพทำนา รายได้ไม่พอเลี้ยงชีพ จึงได้เดินทางเข้า กทม. เพื่อไปหางานและได้ทำงานเป็นสาวโรงงานที่ กทม. อยู่ประมาณ 7 ปี พอมีเงินเก็บได้พอประมาณ ตนอยากจะกลับมาอยู่บ้านเกิดและอยากมีธุรกิจเป็นของตนเอง โดยได้เริ่มต้นจากการไปรับงานเย็บปักเสื้อผ้าจากโรงงานใน กทม. เพื่อมาเย็บที่ จ.ชัยภูมิ แล้วส่งให้โรงงานโดยในช่วงแรกก็ทำเพียงคนเดียว ต่อมาเริ่มหาเครือข่ายมาช่วยเย็บอยู่ที่บ้านของตน บางคนก็นำไปเย็บที่บ้าน จนธุรกิจตัวนี้เริ่มโตขึ้นมาเรื่อยๆ ต่อมาตนคิดต่อว่าถ้าจะให้ธุรกิจดีขึ้น ต้องหาแนวทางประชาสัมพันธ์ให้ธุรกิจของตนให้มีคนรู้จักกว้างขึ้น จะทำอย่างไรต่อจึงได้เกิดความคิดขึ้นตั้งสถานีวิทยุชุมชน ขึ้นเป็นของตนเอง และขายโฆษณาให้กับลูกค้าทั่วๆไป โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการรับโฆษณาจากลูกค้า ต่อมาได้มีความคิดว่าอยากจะมีสินค้าทำของตนเอง จึงได้ติดต่อโรงงานเพื่อผลิตสินค้าจำหน่ายเอง ผลออกมายอดขายสินค้าที่เป็นของตนเอง ขายดี เกินความคาดหมาย
น.ส.วิรัญญา กล่าวต่อว่า หลังจากเก็บเงินได้พอสมควรจึงได้หาซื้อที่ดินเพื่อเก็บไว้ เป็นของตนเองอีก ต่อมาเห็นที่ดินที่ซื้อทิ้งไว้มีวัชพืชหรือหญ้าขึ้นเต็มพื้นที่ไปหมด จึงเกิดความคิดว่าอยากจะหาสัตว์อะไรมาเลี้ยงดีที่มันกินหญ้าเป็นอาหาร โดยตนเองไม่ต้องจ้างคนงานมาตัดหญ้าที่เกิดขึ้น ตนเห็นว่าสัตว์ที่มันกินหญ้าก็คือวัวมันกินหญ้า จึงได้ซื้อวัวมาเลี้ยง ถ้าเลิกเลี้ยงก็สามารถขายให้คนอื่นๆได้ มีราคาด้วย ไม่ว่าจะเป็นวัวไทยหรือนำวัวจากต่างประเทศ หลังจากที่เลี้ยงวัวได้ช่วงหนึ่ง ได้ขยายกิจการเพิ่มขึ้นโดยได้ซื้อวัวเพิ่มจนถึง ณ เวลานี้มีวัวอยู่ประมาณ 30 ตัว แต่ตลาดวัวเริ่มราคาไม่ดี จึงมีความคิดต่อยอดว่าเอาอะไรมาทำต่อเพื่อเพิ่มรายได้ จึงมองเห็นว่าน่าจะทำเป็นฟาร์ม โดยได้ตั้งชื่อฟาร์มว่า กุ้งนาง ควายงาม เมืองพระยาแล พร้อมกับศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับกระบือ โดยได้รับคำแนะนนำจากเพื่อนๆที่มีความรู้ จากนั้นจึงเริ่มหาควายมาเลี้ยงตัวแรกได้ไปซื้อมาจาก จ.มหาสารคราม และก่อนจะซื้อตนได้ตะเวนหาหลายๆที่ แต่ก็ยังไม่ได้ตามที่ต้องการ และควายตัวแรกได้ซื้อมาในราคาตัวละ 8 แสนบาทควายตัวนี้อายุเพียงแค่ 8 เดือนกว่าเท่านั้น และต้องหาซื้อเพิ่มเพื่อให้ควายมีเพื่อน ก็เลยไปซื้อควายมาเพื่อเป็นเพื่อนตัวแรกโดยซื้อมาจาก จ.อุดรธานี ในราคา 3.6 แสนบาท จากนั้นก็ทยอยซื้อมาเรื่อยๆจนถึงเวลานี้ ในมีประมาณ 35 ตัว ถ้าคิดมูลค่าในตอนนี้ก็อยู่ประมาณ 100 กว่าล้านบาท
น.ส.วิรัญญา กล่าวอีกว่า ระหว่างนี้ก็มีการขายไปบ้างบางส่วน ขายตัวละ 5 แสน บ้าง 8 แสนบ้าง รวมแล้วก็ได้มาหลายล้านบาทพอสมควร และมีอีก 2 ตัว ที่มีคนมาขอซื้ออีก เป็นควายเพศเมีย โดยขอซื้อในราคาตัวละ 8 ล้านบาทโดยเฉพาะเจ้าทอแสง ควายเพศเมียอายุ 3 ปี ซื้อมาจาก จ.ชลบุรี ราคา 3.6 แสนบาทและตอนนี้เขามาขอซื้อ 15 ล้านบาท แต่ตนยังไม่ยอมขายเพราะมีความผูกพัน เหมือนสมาชิกในครอบครัวอีกชีวิตหนึ่ง จึงยังไม่ยอมขาย ถึงแม้จะเพิ่มราคาให้อีก มากกว่า 15 ล้านบาท ตนเองก็ยังต้องคิดดูก่อนเพราะความผูกผันที่มีให้กัน จึงยังไม่สามารถที่จะขายให้ใครได้ในตอนนี้
ด้านนายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผวจ.ชัยภูมิ ไกล่าวว่า ในปีนี้ซึ่งเป็นปีแรกที่ จ.ชัยภูมิ ได้มีการจัดมหกรรมประกวดควายงามเพื่ออนุรักษ์ควาย ครั้งที่ 1 ของจ.ชัยภูมิ โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 15 ม.ค.66 ที่สถาบันวิทยาลัยการเกษตรและเทคโนโลยี ชัยภูมิ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อพัฒนาและปรับปรุงรวมถึงการอนุรักษ์ควายไทย โดยจะมีควายจากในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ รวมประมาณมากกว่า 400 ตัว ที่จะเข้ามาประกวด จึงขอประชาสัมพันธ์ให้กับพี่น้องโดยเฉพาะพี่น้องชาว จ.ชัยภูมิของเรา มาดูและปรับปรุงสายพันธุ์ให้มีราคาที่สูงขึ้นทำให้เศรษฐกิจผู้เลี้ยงควายมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพราะ ณ เวลานี้ราคาควายไทยในปัจจุบันนี้เบาๆ ก็อยู่ในหลักล้านทั้งนั้นเลย จึงอยากให้มาดูกันเยอะ ๆ ซึ่ง จ.ชัยภูมิยังมีโรงเรียนควายไทยอยู่ที่ อ.เนินสง่าด้วย สามารถที่จะไปศึกษาหาความรู้เกี่ยวได้