7 พ.ค.64 – เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง รพ.สต. อสม. และ อบต.ทั้งในพื้นที่ อ.หนองหงส์ และ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ได้ร่วมกันเดินทางไปรับตัวชายอายุ 39 ปี หลังหลบหนีออกจากสถานที่กักกันตัวกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 ตามมาตรการของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด โดยชายคนดังกล่าวได้หนีออกจากสถานกักกันตัวไปอยู่ที่บ้านภรรยา อายุ 50 ปี ซึ่งอาศัยอยู่กับลูกสาวอายุ 8 ขวบ ในหมู่บ้านเย้ยม่วง ต.หนองคู อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เพื่อนำตัวไปกักกันที่สถานกักกันตัวในพื้นที่ อ.หนองหงส์ ที่ทางหน่วยงานภาครัฐจัดเตรียมเอาไว้
โดยจากข้อมูลพบว่า ชายวัย 39ที่หนีออกจากสถานกักกันตัว เพิ่งเดินทางมาจาก จ.ชัยภูมิ ซึ่งต้องเข้ากักตัวดูอาการเป็นเวลา 14 วัน ตามมาตรการคณะกรรมการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จ.บุรีรัมย์ แต่เข้ากักตัวได้เพียงวันเดียวก็หนีออกจากสถานกักตัวไปหาภรรยาที่ ต.หนองคู อ.ลำปลายมาศ
จากการสอบถามก็อ้างว่า คิดถึงภรรยาและลูกสาวเพราะไม่ได้เจอกันมานานถึง 2 เดือน จึงโทรศัพท์ให้ภรรยาขับรถกระบะมารับหน้าสถานกักตัว ยอมรับว่ารู้ตัวอยู่แล้วว่าจะต้องโดนตามตัวกลับไปกักตัวอีก แต่ก็เป็นไปตามแผน เพราะลูกกับเมียได้ไปกักตัวด้วยกัน จะได้ไม่ต้องรอนานถึง 14 วันกว่าจะได้เจอหน้ากัน
ด้านนายสุวรรณ์ ประเสริฐ นายก อบต.หนองคู กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งจากทาง รพ.สต.ว่ามีคนหลบหนีออกจากสถานกักกันตัว คาดว่าน่าจะเดินทางเข้ามาในพื้นที่ ต.หนองคู เนื่องจากบ้านภรรยาของผู้หลบหนีอยู่ในหมู่บ้านเย้ยม่วง ต.หนองคู จึงได้ประสาน ตร. ฝ่ายปกครอง และ อสม. ทั้งใน อ.หนองหงส์ และ อ.ลำปลายมาศ ร่วมตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง เมื่อไปตรวจสอบยังบ้านภรรยาของชายคนดังกล่าว ซึ่งตอนแรกภรรยาไม่ยอมบอกว่าสามีอยู่ในบ้าน จนท.จึงขอเข้าไปตรวจสอบภายในบ้าน กลับพบผู้เป็นสามีนอนอยู่ในบ้านและยอมรับว่าหนีออกจากสถานกักกันตัวมาเพราะคิดถึงภรรยา
จากนั้น จนท.จึงได้รับตัวทั้งชายวัย 39 ภรรยาและลูกสาวไปกักตัวทั้งครอบครัว จากกรณีที่เกิดขึ้นก็อยากฝากถึงประชาชนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด เข้ามาในพื้นที่ได้ปฏิบัติตามมาตรการของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดอย่างเคร่งครัดด้วย เพื่อความปลอดภัยทั้งของตัวเอง คนในครอบครั และชาวบ้านด้วย