ส่อวุ่นยาวปัญหาการเตรียมการก่อสร้างโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวะมวลในพื้นที่รอยต่อ 2 อำเภอ ที่เกษตรสมบูรณ์และหนองบัวแดง ชาวบ้านเริ่มเสียงแตก ทั้งฝ่ายหนุนฝ่ายต้านพากันรวมกลุ่มฮือบุกศาลากลางยื่นหนังสือผู้ว่าฯ-หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยแก้ปัญหาทั้ง 2 ฝ่าย
วันที่ 24 ธ.ค.64 ขณะที่ จ.ชัยภูมิ ส่อเกิดปัญหาสร้างความเห็นต่างของคนในพื้นที่มาต่อเนื่องในช่วงกว่า 2 ปี ที่ผ่านมา หลังในพื้นที่ รอยต่อใน 2 อำเภอ ที่ อ.เกษตรสมบูรณ์และ อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ ที่มีการเตรียมลงทุนขนาดใหญ่ในการเข้ามาขอก่อสร้างตั้งโรงงานน้ำตาล และโรงไฟฟ้าชีวะมวล ในพื้นที่และมีการเปิดให้มีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและผู้ผลได้ผลเสียจากชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงในจุดรัศมีไม่น้อยกว่า 5 กิโลเมตร(กม.)พื้นที่ตั้งโรงงาน ใน ต.บ้านเดื่อ อ.เกษตรสมบูรณ์ มาตั้งแต่ช่วงปี 2562 ที่ผ่านมา
ซึ่งมีกลุ่มคัดค้านในพื้นที่ที่เกรงว่าชาวบ้านในพื้นที่จะได้รับผลกระทบยังไม่คลอบคลุมทั่วถึงและมีการยื่นคัดค้านการดำเนินการศึกษาผลกระทบต่อคนในพื้นที่มาต่อเนื่องมานานกว่า 2 ปีที่ผ่านมา
ซึ่งล่าสุดวันนี้ยังได้มีกลุ่มที่ออกมาให้การสนับให้เกิดการก่อสร้างดังกล่าวในพื้นที่ ในกลุ่มตัวแทนชาวไร่อ้อย อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ ได้รวมตัวกันกว่า 30 คน ส่งตัวแทนเดินทางมาเพื่อขอยื่นหนังสือสนับสนุนการก่อสร้างโครงการดังกล่าว ให้กับนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเวลา 09.00 น.วันที่ 24 ธ.ค.64 ที่ศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ ได้มีตัวแทนกลุ่มชาวไร่อ้อยจาก อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ นำโดยนางสาวยุพาพร ศรีนอก ตัวแทนเกษตรกรชาวไร่อ้อย อ.เกษตรสมบูรณ์ ได้มาขอยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ นายไกรสร กองฉลาก ในเรื่องครั้งนี้เพื่อให้ช่วยเร่งรัดการก่อสร้างโรงงานน้ำตาล และโรงไฟฟ้าชีวะมวลในพื้นที่ตำบลบ้านเดื่อ อ.เกษตรสมบูรณ์โดยเร็วเพื่อประโยชน์ต่อคนในพื้นที่มากว่าผลเสีย หลังที่เคยมีกลุ่มคัดค้านโครงการดังกล่าวที่มาจากนอกพื้นที่บางกลุ่ม ได้คัดค้านการสร้างโรงงานน้ำตาลในพื้นที่อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ ทำให้เกษตรชาวไร่อ้อยในพื้นที่อำเภอเกษตรสมบูรณ์ โดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลบ้านเดื่อ เสียโอกาสในการที่จะมีโรงงานน้ำตาล และโรงไฟฟ้าชีวะมวลในพื้นที่ตำบลบ้านเดื่อ โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้มอบหมายให้นายภูมินท์ชัย วังศรีอรมัน ป้องกันจังหวัดชัยภูมิ เชิญตังแทนชาวบ้านที่มาครั้งนี้ไปที่ห้องประชุมชั้น 3 ศาลกลางจังหวัดชัยภูมิ พร้อมรับยื่นหนังสือจากตัวแทนชาวบ้านที่มาครั้งนี้ขอความเป็นธรรม ในการอยากผลักดันให้เกิดการก่อสร้างโรงงานน้ำตาล และโรงไฟฟ้าชีวะมวลในพื้นที่ตำบลบ้านเดื่อ อ.เกษตรสมบูรณ์ ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาต่อไป
ซึ่ง นางสาวยุพาพร ศรีนอก ตัวแทนเกษตรกรชาวไร่อ้อยอำเภอเกษตรสมบูรณ์ ที่พากันออกมาสนับการสร้างโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวะมวลดังกล่าว บอกว่าการที่ตัวแทนกลุ่มเกษตรชาวไร่อ้อย ได้มายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องครั้งนี้ เพื่อต้องการขอความเป็นธรรม ที่ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จะเสียโอกาสหากไม่มีการก่อสร้างโรงงานน้ำตาล และโรงไฟฟ้าชีวะมวล ในพื้นที่ ต.บ้านเดื่อ อ.เกษตรสมบูรณ์ เนื่องจากในพื้นที่ อ.เกษตรสมบูรณ์ มีชาวบ้านที่ได้ประกอบอาชีพทำไร่อ้อยเกือบทุกหลังคาเรือน ที่ผ่านมามีชาวไร่อ้อยกว่า 2,000 ราย ปลูกอ้อยส่งโรงงานน้ำตาลมิตรผลที่ อ.ภูเขียว ปริมาณอ้อยกว่า 1 ล้าน 2 แสนตัน ระยะทางไกลจากพื้นที่ปลูกกว่า 90 กิโลเมตร ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายในการขนส่งอ้อยสูง
ซึ่งหากมีการก่อสร้างโรงงานน้ำตาล และโรงไฟฟ้าชีวะมวล ในพื้นที่ ต.บ้านเดื่อ อ.เกษตรสมบูรณ์ ขึ้นครั้งนี้ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายค่าขนส่งอ้อยเข้าโรงงานน้ำตาลได้ถึงตันละ 100 บาท สถานที่ส่งอ้อยใกล้บ้านลดการอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี ส่งอ้อยเข้าโรงงานน้ำตาลได้เร็วขึ้น และเกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ รวมถึงเกิดการจ้างงานในพื้นที่ตามมาอีกจำนวนมากนับพันหลายคนอีกด้วย คนในพื้นที่ไม่ต้องดิ้นรนไปหางานทำยังต่างถิ่น เกิดความรักความสามัคคีของญาติพี่น้องได้เป็นอย่างดี เมื่อเกิดโรงงานน้ำตาล และโรงไฟฟ้าชีวะมวล ในพื้นที่ ต.บ้านเดื่อ อ.เกษตรสมบูรณ์ ครั้งนี้ขึ้นมาโดยเร็วตามาได้ครั้งนี้ด้วย
ขณะที่เมื่อช่วงเวลา 10.40 น.วันเดียวกัน (24 ธ.ค.64) ก็ได้มีฝ่ายที่คัดค้านการมาตั้งโรงงานดังกล่าวในพื้นที่ นำโดยนายภาณุพงศ์ ศรีธนานุวัฒน์ หรือ ไนซ์ ดาวดิน อายุ 26 ปี (ที่อยู่เลขที่ 131 ถ.กรุงศรีใน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์) ซึ่งเป็นที่ปรึกษากลุ่มสานพลังประชาชน/กลุ่มคัดค้านโครงการโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวะมวล พร้อมด้วย นายพายุ บุญโสภณ แกนนำเครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน (คปอ.) , นายศุภากร คำประดิษฐ์ แกนนำคณะราษฎรชัยภูมิ, นายนิติกร ค้ำชู แกนนำกลุ่มราษฎร โขง ชี มูล, นายเอเชีย รุ่งเกียรติธนโชติ แกนนำเครือข่าย Korat movement และกลุ่มราษฎรคัดค้านโรงงานน้ำตาล และโรงไฟฟ้าชีวะมวล อ.เกษตรสมบูรณ์และ อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ พร้อมสมาชิก ประมาณกว่า 30 คน เช่นกันได้เดินทางมารวมตัวกันที่หน้าทางขึ้นศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ เพื่อขอยื่นหนังสือต่อ นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ โดยมีข้อเรียกร้องหลัก จำนวน 2 ข้อ คือ 1) ขอให้ชะลอกระบวนการจัดทำ EIA ผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่โครงการก่อสร้างดำเนินการอยู่ขณะนี้ทั้งหมดทุกขั้นตอน และ 2) ขอให้มีการตั้งคณะกรรมการประเมินยุทธศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อม (SEA) เพื่อประเมินศักยภาพของพื้นที่และเปิดให้การมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ก่อสร้างโรงงานที่ได้รับผลกระทบเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมจากทุกฝ่ายที่ชัดเจนมากกว่านี้ ก่อนที่จะมีการดำเนินการก่อสร้างโรงงานใดๆในครั้งนี้ด้วย
ก่อนที่ทาง ผวจ.ชัยภูมิ ได้มอบหมายให้นายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ และนายสมบัติ ไตรศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายโยธาธิการและผังเมือง อุตสาหกรรมจังหวัด และทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดชัยภูมิ เชิญตัวแทนชาวบ้านขึ้นไปพูดคุยรับฟังปัญหาที่ห้องประชุมชั้น 3 ศาลากลาง จังหวัดชัยภูมิ อีกเช่นกัน ก่อนที่จะมอบหนังสือขอความเป็นธรรมของฝ่ายคัดค้านในครั้งนี้ เพื่อที่จะแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบ ซึ่งเบื้องต้นทางนายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่นอกเหนืออำนาจของทางจังหวัดชัยภูมิ จะตัดสินใจได้ ซึ่งที่ผ่านมามีการมายื่นเรื่องให้ทางจังหวัดชัยภูมิดำเนินการกรณีดังกล่าว แต่ไม่สามารถแก้ให้ได้เพราะนอกเหนืออำนาจที่มีระเบียบกฎหมายกำหนดไว้ ซึ่งจากนี้ไปทางจังหวัดจะได้เสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้โดยตรง ซึ่งจะต้องมีคำสั่งที่ชัดเจนว่าจะให้จังหวัดชัยภูมิ ทำได้หรือไม่ได้
เพื่อที่จะแจ้งให้กับกลุ่มมวลชนที่เดินทางมาครั้งนี้ทราบต่อไป ต้องขอให้เข้าใจหน้าที่บทบาทของจังหวัดด้วย มาร้องแล้วช่วยไม่ได้ เพราะไม่มีอำนาจไปดำเนินการได้ ต้องเป็นหน่วยใดที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องนี้จะได้แจ้งให้ทราบต่อไปได้ก่อน หลังจากนั้นด้าน นายพายุ บุญโสภณ แกนนำเครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน (คปอ.) กล่าวว่า หลังได้รับคำชี้แจงจากตัวแทนทางรองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ แล้วซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 7 วัน ซึ่งหากเป็นเรื่องที่นอกเหนืออำนาจของทางจังหวัดชัยภูมิ แล้วเมื่อหน่วยใดที่จะเป็นผู้รับผิดต่อโครงการกการดำเนินการดังกล่าวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ก็จะได้ประสานขอคำตอบโดยตรงเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายในครั้งนี้ได้ชัดเจนมากขึ้นต่อไป ก่อนแยกย้ายพากันเดินทางกลับในช่วงเมื่อ 12.40 น.วันเดียวกัน ( 24 ธ.ค.64 ) ที่ผ่านมา
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่