“หนังสือพิมพ์แนวหน้า www.naewna.com สื่ออุดมการณ์ มั่นคง ตรงไปตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ทำความจริงให้ปรากฏ รู้เท่าเทียมเท่าทันนักเลือกตั้งนักธุรกิจการเมือง”เริ่มต้นสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและค่าครองชีพที่เป็นวิบากกรรมของสังคมไทยอย่างรุนแรงในขณะนี้สินค้าอุปโภค-บริโภคดาหน้าขึ้นราคาอย่างไม่หยุดยั้ง “อู๊ดด้า –จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์” สมควรหยุดภารกิจ “หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์”แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้านำทีมสมาชิกเดินสายเปิดตัวสายเลือดใหม่สายเลือดเก่าหาเสียงเตรียมสู้ศึกการเลือกตั้ง ทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ยังไม่รู้วันเวลาที่ชัดเจนและเลือกตั้ง“ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร”หันมาดูแลภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้ดูแลทุกข์สุขของประชาชนในเรื่องปากท้องค่าครองชีพอย่างยิ่งยวดให้มากกว่าที่เป็นอยู่ นี่ต่างหากที่มาของคะแนนนิยมที่ค่ายพระแม่ธรณีบีบมวยผมจะได้จากผู้คนทั้งแผ่นดิน…
nn กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ สถาบันการเมืองเก่าแก่ที่มีรากฐานมั่นคงมีทั้งสิ้น 39 ท่านไม่มีผู้มีความรู้ความสามารถมากบารมีพอเป็นโต้โผในการหาเสียงแต่ละพื้นที่แต่ละกิจกรรมเลยเชียวหรือ อย่างเลือกตั้ง“ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร” ปชป. มีขุนพลอย่าง “มิสเตอร์เสาไฟฟ้า–องอาจ คล้ามไพบูลย์” ที่คนในพื้นที่รู้จักหน้าค่าตาเชื่อมนต์เชื่อคาถามากกว่าหัวหน้าพรรคก็ว่าได้ ก็มากพอให้หัวหน้าพรรคที่มีหน้าที่ดูแลราคาสินค้าการเกษตรสินค้าอุปโภค-บริโภคไม่สร้างภาระให้สังคมไทยแก้วิกฤตค่าครองชีพให้บรรเทาลงน่าจะดีกว่าไหม…
nn เห็น “ตือโป๊ยก่าย-วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” ผู้สมัครชิงเก้าอี้ “มาเฟียเสาชิงช้า–ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจากพรรคก้าวไกล” ลงพื้นที่หาเสียงย่านสะพานเหลืองสร้างบรรยากาศน่าทึ่ง เกาะ “เจ้าแม่ทับทิม”สะพานเหลือง ศาลเจ้าที่มีอายุยาวนานกว่าร้อยปี เกิดขึ้นสมัยรัชกาลที่ 5 โดยชุมชนชาวจีนอพยพที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ สะท้อนให้เห็นถึงการดำรงอยู่อย่างร่วมสมัยผ่านกาลเวลา เมื่อมีการพัฒนาพื้นที่เป็นย่านธุรกิจ ทำให้ต้องมีการเคลื่อนย้ายศาลดั้งเดิม ที่มีคุณค่าด้านสถาปัตยกรรมและคุณค่าทางจิตใจ บอกว่าการพัฒนาพื้นที่ล้มเหลว หวัง ถอดบทเรียนการพัฒนาพื้นที่ที่ไม่ทิ้งผู้คน…
nn เห็นแกนนำ “คณะก้าวหน้า” หลายคนออกมาสำรอกเรื่องการกระจายอำนาจ “ปลดล็อกการปกครองส่วนท้องถิ่น” ไม่ใช่ไม่เห็นด้วย แต่ “ไม้หน้าสาม”สงสัยว่ามาเป็น “ท่านผู้ทรงเกียรติ” นาน 4 ปีมีเก้าอี้มากพอตามรัฐธรรมนูญที่จะลงชื่อเสนอกฎหมาย ทำไมถึงไม่ดำเนินการใดๆฤๅ 4 ปีที่ว่าแค่ “ฝึกงานและกระทำตามความต้องการของตนเองและพวกพ้อง”ลืมนึกถึงประเทศชาติและประชาชน…
nn “ไม้หน้าสาม” จำได้ว่า ครั้งหนึ่งราวปี พ.ศ.2528 “ไกรสร ตันติพงศ์ อดีต สส.เชียงใหม่ 7 สมัย พรรคประชาธิปัตย์” ที่ไม่เคยสอบตกไม่เคยแพ้การเลือกตั้งเลยเช่นเดียวกับ “มีดโกนอาบน้ำผึ้ง–ชวน หลีกภัย สส.ตรัง ประธานรัฐสภา” ได้เคยเสนอ “ร่างพระราชบัญญัติเชียงใหม่มหานคร… เพื่อยกฐานะเชียงใหม่เป็นมหานคร” มีการเลือกตั้งผู้บริหารจังหวัดเฉกเช่น “ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร”เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร แต่ยังไม่มีการบรรจุวาระก็เกิดการ “ยุบสภา!!” เสียก่อน จากวันนั้นจนวันนี้ยังไม่เห็นมีการเคลื่อนไหวต่อกรณีดังกล่าวทั้งที่ปากก็โหยหวนในเรื่องการกระจายอำนาจเรื่องการปกครองส่วนท้องถิ่นกันจนน้ำลายบูดทั้งนั้น…
nn งานนี้ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจหัวหน้าคณะก้าวหน้าบอกว่า… “การปลดล็อกท้องถิ่นจะอนุญาตให้ประชาชนได้ออกแบบและลงทุนเองได้ว่าอยากให้เมืองของตัวเองเป็นอย่างไร ถ้าเปลี่ยนจากระบบที่เป็นอยู่เป็นแบบนี้ได้จะเป็นการปลดล็อกพลังการผลิตครั้งใหญ่ ทำลายโซ่ตรวนที่ฉุดรั้งความก้าวหน้าของสังคมไทย” แต่เท่าที่ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของกลุ่มการเมืองของพวกท่านนั้นมีผลงานแค่ 1.เรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์, 2.สนับสนุนและปลุกเร้าให้ “เยาวชนกลุ่มสามกีบ” ออกมาชุมนุมจัดกิจกรรมทางการเมืองเรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ, ให้ “ทหารเฒ่าไต้ก๋งชราพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา” ลาออกจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี, จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ รังแต่จะสร้างความแตกแยกความวุ่นวายวนเวียนกับผลประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้องหาได้มีประโยชน์แก่ประชาชนและสังคมไทยไม่ ทั้งที่สังคมไทยเองต้องต่อสู้ป้องกันตนเองให้ห่างความเสี่ยงจาก “การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)”อย่างหนักหน่วงระลอกแล้วระลอกเล่า… เก่งแต่สร้างวาทกรรม “ด้อยค่าวัคซีนเชื้อตายมหามิตร” ปอปั้น “วัคซีน mRNA ของพันธมิตรจอมปลอม” จนสมาชิกในสังคมไทยเกิดความหวาดระแวงวุ่นวาย ยังโชคดีที่สังคมไทย “เชื่อหมอไม่เชื่อหมา”
จึงผ่านพ้นวิกฤตนี้มาได้จนทุกวันนี้…
nn “ไม้หน้าสาม” อยากเห็นการสนับสนุนอย่างจริงจังจริงใจของรัฐบาลกับสินค้าท้องถิ่นบางตัว ผลผลิตจากความรักความเข้าใจที่ไร้พรมแดนไร้เงื่อนไข “CHAIYAPHUM” เหล้ารัมจากชัยภูมิ … เมืองไชยภูมิ์ ดินแดนกำเนิดแม่น้ำชี สดุดีพญาแลผู้กล้า ปรางค์กู่เป็นสง่า ล้ำค่าพระธาตุชัยภูมิ สมบูรณ์สรรพสัตว์ เด่นชัดลายผ้าไหม ดอกกระเจียวงามลือไกล อารยธรรมไทยทวารวดี ที่เริ่มผลิตมาได้ประมาณ 1 ปี จากฝีมือ “ช่างนาฬิกาชาวฝรั่งเศส” ที่มาพบรักกับ “สาวชัยภูมิที่เกาะสมุย” โดยฝ่ายสาวมีไร่อ้อย ส่วนฝ่ายชายชื่นชอบการจิบสุรา เมื่อตกลงปลงใจกันแล้วว่าจะมาอยู่ที่ไทย จึงเกิดไอเดียผลิตเหล้าตัวนี้จากอ้อยสด คั้นน้ำแล้วนำมาหมักโดยใช้ยีสต์จากธรรมชาติที่ติดมากับลำอ้อย เหล้าตัวนี้ใช้เวลาหมักมากกว่าปกติ เพราะไม่ได้ใส่ยีสต์อื่นๆ เพิ่มเติมลงไป จึงได้ความเป็นอ้อยสดแบบมาทั้งเปลือกมาทั้งกอ ประเด็นคือจะได้รับการสนับสนุนทางใดทางหนึ่ง
จากรัฐบาลหรือไม่ เพราะว่ากันว่า “สินค้าแบรนด์นี้จะสร้างอาฟเตอร์ช็อกให้กับธุรกิจเจ้าสัวน้ำเมาไม่มากก็น้อย” เหล้ารัมสัญชาติไทยตัวที่สองต่อจาก Spiced Rum สัญชาติไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก ที่ว่ากันว่าเป็นเหล้ารัมชนิดพิเศษที่เกิดจากการนำเหล้ารัมไปหมักกับเครื่องเทศชนิดต่างๆ เช่น ซินนามอน
วานิลลา ส้ม ออลสไปซ์ กานพลู ลูกจันทน์ พริกไทยดำ ฯลฯ แล้วแต่สูตรแต่ละแขนงจะปรุงแต่งเฉกเช่นเดียวกับ “ยาดอง”…
nn ทิ้งท้ายฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม”ขอแสดงความยินดีกับ “ท่านจรัล ศศะสมิต ผู้จัดการโรงเรียนปรีดาวิทย์ โรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนและประธานโครงการบุญยงค์เพลส(สาขาบริการการศึกษา)” ที่ได้รับการพิจารณาคัดเลือกให้เป็น “ศิษย์เก่าดีเด่นโรงเรียนวิสุทธรังษีประจำปี 2563” โรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่พิเศษและโรงเรียนรัฐบาลแห่งแรกของจังหวัดกาญจนบุรี และเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดกาญจนบุรี สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาญจนบุรี สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ…nn
ไม้หน้าสาม