Advertisement
พรรคพลังประชารัฐเตรียมแถลงนโยบาย 17 ม.ค.นี้ จากนั้นทำการประชุมใหญ่ 21 ม.ค. 66 เตรียมผลักดันพล.อ.ประวิตร เป็นนายกฯ คนที่ 30 เชื่อสามารถกวาดที่นั่ง 100
วิรัช รัตนเศรษฐ
นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า วันนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค และคณะกรรมการนโยบายพรรคพลังประชารัฐที่มีนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์, นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค, นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค และในวันที่ 17 ม.ค.นี้ จะมีการแถลงนโยบายในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง หลังจากนั้นจะมีการเริ่มติดป้ายนโยบายของพรรคต่อไป และเตรียมจัดประชุมใหญ่ วันที่ 21 ม.ค.นี้ ณ ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ ถนนรัชดาภิเษก อยู่ระหว่างพิจารณาเวลาที่เหมาะสม และวิธีการ
เมื่อถามว่าจะเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ พรรคพลังประชารัฐด้วยหรือไม่ นายวิรัช กล่าวว่า พรรคเอาใจบันดาลแรงที่จะส่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค ไปเป็นนายกฯ คนที่ 30 หากเทียบกันง่ายๆ พลังประชารัฐคือ ผู้ที่สร้างนายกฯ มาแล้ว และครั้งนี้เราจะสร้างหัวหน้าพรรคของเราให้เป็นนายกฯ คนที่ 30 ซึ่งเป็นเป้าหมายที่จะต้องทำให้สำเร็จ และขณะนี้มีนักการเมืองทยอยมาสมัครสมาชิกพรรคแล้วหลายราย เช่น นพ.ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ ที่เป็นตัวหลักใน จ.ชัยภูมิ ตั้งเป้าหมาย 5 ที่นั่ง ใน 7 เขต
ส่วน จ.นครราชสีมาตั้งเป้าหมาย 12 ที่นั่ง ใน 16 เขตโดยเราวางเป้าไว้ทุกจังหวัด และเติมในส่วนที่ขาด โดยเฉพาะในสายอีสาน ที่บางคนบอกจะสู้เขาไม่ได้ แต่ไม่มีใครคิดว่า พปชร.จะได้ถึง 8.4 ล้านเสียง ซึ่งมาจากการเน้นนโยบายบัตรประชารัฐ ครั้งนี้เราจะปรับปรุงบัตรประชารัฐ ทั้งในส่วนของต่างจังหวัดและ กทม. เราพยายามทำให้เกิดความชัดเจน
นายวิรัช กล่าวว่า กระแสของพล.อ.ประวิตร เกิดจากบรรดาลูกพรรคทั้งหมดร่วมแรงช่วยกัน ซึ่งจะเกิดใจบันดาลแรงเอง ไม่ต้องห่วง เชื่อว่าจะมีกระแสขึ้นมา และพรรคพลังประชารัฐถือว่าเป็นยุคใหม่ เพราะวันนี้ทุกคนมีความรู้สึกว่าทุกคนตั้งใจทำงาน และเมื่อลูกพรรคลงไปในพื้นที่จะพูดเองว่าทำไมถึงสนับสนุน พล.อ.ประวิตร เป็นนายกฯ
เมื่อถามว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม การเปิดหน้าร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จะเป็นการแข่งกันเองของพี่น้อง 2 ป. หรือไม่
นายวิรัช กล่าวว่า ในทางการเมืองหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ในส่วนความสัมพันธ์ของพี่น้องเป็นเรื่องระหว่าง 2 คน แต่ในส่วนการเมืองก็มีหน้าที่ชูหัวหน้าพรรคของตัวเอง เชื่อว่าคงไม่ตัดคะแนนกัน เพราะเขตใครเขตมัน และแต่ละเขตคนก็อยากจะเป็น ส.ส. ไม่ได้ตัดคะแนน อีกทั้งครั้งนี้ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ถ้าชอบทั้งคนทั้งพรรคก็เลือก 2 ใบ แต่ถ้าชอบคนแต่ไม่ชอบพรรคก็เลือกตามสะดวก แต่ทั้งนี้ เราต้องรณรงค์ให้เลือกทั้งคนทั้งพรรค
ส่วนจะมีการดีลกันเพื่อแบ่งพื้นที่กันหรือไม่ นายวิรัช ยืนยันไม่มี ไม่มีใครพูดถึงในเรื่องนี้ “เราเป็น พปชร.ยุคใหม่” ปราศจากข้อผูกมัดกัน
เมื่อถามว่ามีการพูดคุยกันในพรรคแล้วใช่หรือไม่ที่จะให้ พล.อ.ประวิตรเป็นแคนดิเดตนายกฯ
นายวิรัช กล่าวว่า มันยิ่งกว่าออโตเมติกอีก มันไม่ใช่เกียร์แมนนวล ตอนนี้เป็นยุค 5 จีแล้ว เกียร์ออโตเมติกแล้ว และทุกคนทราบดี เวลาที่สมาชิกพรรคมาอบรมคนเองได้มีการย้ำตลอดว่า หัวหน้าพรรค พปชร. จะต้องเป็นนายกฯ คนที่ 30 โดยวันที่ 11 ม.ค. จะมีการเขียนระบุอย่างชัดเจนว่าทำไมพวกเราถึงต้องสนับสนุนพล.อ.ประวิตรเป็นนายกฯ จะเขียนเป็นข้อๆ
นายวิรัช ย้ำว่าเลือกตั้งครั้งต่อไปจะได้กี่ที่ต้องให้ประชาชนตัดสินใจ แต่ก็เกินร้อยอยู่แล้ว เฉพาะ จ.นราธิวาส อย่างน้อย 4 ที่นั่ง