ชัยภูมิ – ก่อนที่หลานชายวัย 25 ปี จะหลบหนีเข้าป่าบนเทือกเขาภูแลนคา ล่าสุดตัดสินใจเข้ามอบตัวกับ ตร.แล้ว!
( 15 ธ.ค.65 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา เกิดเหตุสลดเกิดขึ้นภายในครอบครัวทาสยาบ้าอีกราย หลัง พ.ต.ต.วิริศร์ เศษวิทา สว.เวร สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งมีเหตุมีคนถูกฆ่าเสียชีวิต ที่กระท่อมนาในหมู่บ้านชีลองเหนือ ต.ห้วยต้อน อ.เมือง จ.ชัยภูมิ
หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน พบในที่เกิดเหตุภายในกระท่อมนาดังกล่าวพบศพนายปุ่ง อายุ 47 ปี ชาวบ้านชีลองเหนือ ต.ห้วยต้อน อ.เมือง จ.ชัยภูมิ สภาพศพมีแผลถูกตีด้วยของแข็งที่บริเวณใบหน้าและศีรษะ นอนตายจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่บนที่นอนในสภาพไม่สวมเสื้อผ้า และข้าง ๆ ศพผู้เสียชีวิตยังมีสุนัขชื่ออีแดงนั่งเฝ้าศพผู้เสียชีวิตอย่างน่าเวทนา
ซึ่งก่อนเกิดเหตุมีชาวบ้านเห็นว่า นายเอ อายุ 25 ปี ชาวบ้านชีลองเหนือ ต.ห้วยต้อน อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นหลานชายผู้เสียชีวิต ได้เดินผ่านมาที่หน้าบ้านของ ผู้เสียชีวิต และเกิดเรื่องทะเลาะวิวาท และเกิดการชกต้อยกันขึ้นต่อมาได้มีชาวบ้านได้มาห้าม แยกทั้งคู่ออกจากกัน ซึ่งสาเหตุมาจาก เรื่องที่ผู้ตายเป็นลุงที่มีประวัติเสพยาบ้าจนป่วยเป็นโรคจิตรเวช และมีอาการเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายและมักจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับหลาน อายุ 25 ปี อยู่เป็นประจำ ซึ่งในบ่ายวันเกิดเหตุ ญาติ ๆ เห็นว่าลุง (ผู้เสียชีวิต) อายุ 47 ปี ไม่ออกมาหากินข้าว จึงได้ตามเข้าไปดูในกระท่อมนาบ้านพัก ก็พบว่ากลายเป็นศพถูกฆ่าเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งมาสอบสวนหาสาเหตุ และพบว่าหลานชาย อายุ 25 ปี ผู้ก่อเหตุได้เดินหลบหนีหายออกจากบ้านเข้าไปในป่าบนเทือกภูแลนคา ที่อยู่ใกล้หมู่บ้าน
ส่วนสาเหตุที่มีการฆ่ากันครั้งนี้ พี่สาวผู้ตาย อายุ 56 ปี เล่าให้ฟังว่า ปกติบ้านหลังนี้จะมีตนอยู่ 3 คน คือ ลุง (ผู้เสียชีวิต) และหลานชาย จะอยู่กับแฟน วันเกิดเหตุหลานชายไปทำงานนอกบ้าน และส่วนผู้ตายเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ทำลายข้าวของภายในบ้าน แถมยังใช้ไม้ทุบฝาบ้านพังเสียหาย เลยมีคนโทรไปหาหลานชายที่ทำงานอยู่นอกบ้าน ว่าลุงได้ทำร้ายข้าวของภายในบ้านและพังบ้าน เมื่อหลานได้ยินหลานจึงรีบกลับมาบ้าน พอหลานมาถึงบ้านจึงเกิดความโมโหขึ้น เพราะเหตุแบบนี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น เกิดมาหลายครั้งแล้วซึ่งลุงผู้ตายจะมีอาการคลุ้มคลั่ง ไม่สวมใส่เสื้อผ้าและจะชอบพังข้าวของในบ้านพังเสียหาย มาแล้วบ่อยครั้ง หลานชายผู้ก่อเหตุจึงเดินไปหาลุง ที่กำลังนอนอยู่กระท่อมหลังบ้าน และน่าจะมีปากมีเสียงกันขึ้น จึงเกิดความโมโหใช้ท่อนไม้ ฟาดไปที่คอของลุงและจากนั้นยังนำค้อนตีตะปูมาดีซ้ำที่บริเวณศรีษะ ทำให้ลุงแน่นิ่ง และเสียชีวิตในครั้งนี้ขึ้น
หลังจากที่หลานชาย อายุ 25 ปี ลงมือฆ่าลุงตายแล้ว จึงได้หลบหนีเข้าป่าขึ้นเขาภูแลนคาไป และล่าสุดได้ลงจากเขาเข้าหมอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ แล้วและทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวส่งดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นจนเสียชีวิต เพื่อส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปในขณะนี้แล้ว