เคยมีการพูดกันว่า หากตอนนั้น “สัมฤทธิ์” ลงสมัครพรรคเพื่อไทยคงวิ่งเข้าป้ายแบบม้วนเดียวจบ ไม่ต้องออกแรงขนาดนี้ แต่เจ้าตัวเลือกพรรคพลังประชารัฐด้วยเหตุผลที่นักการเมืองหลายต่อหลายคนรู้กันดี
ผ่านมาวันนี้กว่า 3 ปี ปลายเทอมรัฐบาล ตอนนั่งเก้าอี้นายกเทศมนตรีเป็นอย่างไร ตอนเป็น ส.ส.เป็นอย่างนั้น “สัมฤทธิ์” ยังเป็นคนเดิมไม่เปลี่ยน “ติดดิน-เข้าถึงง่าย-จริงจัง”
ทุกข์ชาวบ้านเล็กๆ น้อยๆ ไม่เคยมองข้าม หนี้สิน ถูกโกง สากกะเบือยันเรือรบ “สัมฤทธิ์” เปิดสำนักงานรับเรื่อง เร่งเครื่องแก้ให้หมด
ถนนสี่เลนในพื้นที่ที่ชาวบ้านร้องขอมาหลายปี กี่ปีๆ ก็ไม่ได้สักที มาสมหวังเอาในยุคนี้ที่มี “ส.ส.สัมฤทธิ์” เป็น “เสี่ยดัน”
ขณะที่งานสภา ถือเป็น ส.ส.ที่พูดเรื่องปัญหาเกษตรกรมากเป็นเบอร์ต้นๆ ทั้งเรื่องอ้อย เรื่องมันสำปะหลัง มีกระทู้กันแทบจะทุกสัปดาห์ เอาปัญหามาพูดตลอด จนถูกเรียก “มิสเตอร์เกษตร”
แล้วไม่ได้พูดแบบฉาบฉวย แต่เป็นพวกกัดไม่ปล่อย หากยื่นเรื่องไปแล้วไม่คืบ “สัมฤทธิ์” ติดตามจริงจัง สำเร็จมานักต่อนัก โดยเฉพาะเรื่องเงินช่วยเหลือเกษตรกรไร่อ้อย ที่ตัดอ้อยสดเข้าโรงงาน ซึ่งดันจนถึงฝั่ง แล้วยังช่วยลด PM 2.5 ไม่ต้องเผาอ้อยให้เกิดมลพิษทางอากาศอีก
คนชมกันเยอะ นอกจากเป็นพวกน้ำดีแล้วยังมีผลงาน ครั้งหน้าลงพรรคไหนรับประกัน 1 เก้าอี้ชัยภูมิมีแน่.
ฌ.เฌอ